Podcast กับชีวิตประจำวันของข้าพเจ้า ชะเอิงเงิงเงย

จะว่าผมเป็นนักเพลงตัวยง ก็อาจจะพอได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นคนละเมียดละไมขนาดศิลปินอะไรขนาดนั้น ประมาณว่า วงนี้โซโล่กีต้าร์ได้พริ้วขั้นเทพ หรือจังหวะกลอง กระเดื่อง รัวได้สะใจ น่าจะระดับต้นๆ ของโลก ผมไม่รู้ขนาดนั้นหรอกครับ เป็นแค่คนชอบฟังเพลง แล้วฟังบ่อยๆ ฟังหลายๆ แนว ขึ้นอยู่กับอารมณ์ สิ่งที่ชอบน่าจะเป็นจังหวะดนตรีนี้ ให้อารมณ์ความรู้สึกขณะฟังยังไง เช่น ฟังแล้วนึกถึงความฮึกเหิม ฟังแล้ว กำลังเชิดชูเกียรติยศ อะไรประมาณนี้

ต้นกำเนิดการฟังของผม น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากพี่สาว ที่ชอบฟังเพลง พอเค้าเปิดเราก็ฟังตามไปด้วย ฟังตามพี่ว่างั้น ตั้งแต่ยุคที่เครื่องเล่นยังเป็นเทปคาสเซ็ท (อิอิ รู้นะนึกถึงอะไร) และเพลงใหม่ๆ จะมาจาก radio ส่วน MV ในยุคนั้น หาฟังค่อนข้างยาก เพราะมาตอนดึกๆ

ปัญหาที่พบในยุคนั้นจากการฟังวิทยุ คือ คนเราอ่ะนะ อยากฟังเพลงโดยมากจะเป็นเพลงที่เราชอบ พวกเพลงฮิตติดหูนั่นล่ะ แต่เพลงที่มีในยุคนั้น จะเปิดสลับๆ กันไป ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ก็ต้องทนฟัง

ส่วนปัญหาจากการฟังเทป คือ ในบรรดาเพลงทั้งอัลบั้ม มันจะโอๆ อยู่สัก 2 - 3 เพลงเท่านั้นล่ะ นาน น๊านนนน จะมีแบบโดนๆ เกือบทั้งอัลบั้ม ก็ขายดีเทน้ำเทท่ากันไปถ้ามีพวกอย่างนี้มา  แต่โดยมากก็ ๒ - ๓ เพลงนั่นล่ะต่ออัลบั้ม

มาในยุค mp3 จึงเป็นช่วงค่อนข้างปล่อยของกันอย่างบ้าคลั่ง ในยุคแรกๆ กันเลย แผ่นผี ซีดีเถื่อนเพียบ ทั้งแวมไพร์ ประเทือง ซูโม่ ก๊อปแวมไพร์อีกทีก็มี 555 แล้วในซีดีแผ่นนึงก็จุได้เป็นร้อยถึง สองร้อยเพลง ในราคาสิบกว่าบาท

ดูเอาเถิด
- เทป 60 กว่าบาท(มั๊ง) มี 12 เพลง เพราะอยู่ 2-3 เพลง
- ซีดี 10 กว่าบาท (ไรท์แผ่นจากเพื่อนได้ง่ายๆ ด้วย) มี ร้อยกว่าเพลง เพลงเพราะๆ แล้วแต่มึงเลือกเอาเลย ไม่นับเรื่องต้องกรอเทปด้วย 555

แต่จุดเสียของยุคซีดีก็คือ
เมื่อเราฟังเพลงเดิมซ้ำๆ มันเลยเบื่อ ผมนี่เบื่อถึงขนาดที่ว่า เลี่ยนเพลงยุคปี 90s กันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างพวกวงบอยแบนด์ในยุคนั้น Backstreet boy  ,NKOTB, Boy zone หรือ นักร้องเดี่ยว นักร้องหญิง ยุคนั้น ฟังกันจนเลี่ยนน่ะ เปิดปุ๊บเลี่ยนเลย

Spotify เข้ามาแก้จุดนี้

ก่อนหน้า Spotify มี Pandora อีกอันนึง ไม่แน่ใจอันไหนมาก่อนมาหลัง แต่ยุคๆ ประมาณเดียวกัน จุดขายของทั้งสองค่ายคือ มีอัลกอริทึม ซึ่งจะเกิดจากการฟังเพลงแนวนั้นๆ บ่อยๆ ของเรา แล้วเลือกเพลงในท้องตลาดมาให้เราได้ฟัง เรียกว่า Discovery music หาเพลงใหม่มาแนะนำ

ผมนี่บอกเลยว่าเจออันนี้ครั้งแรก นี่ใช่เลย ถึงแม้ว่าอัลกอริทึมยุคแรกๆ มันจะยังง่อยๆ แต่เชื่อว่า นี่คือเส้นทางที่ถูกต้องของนักฟังเพลง เราจะได้ฟังเพลงใหม่ๆ วงดนตรีที่ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่เราโดนดนตรีแนวนี้น่ะ โอ๊ย วงพวกนี้มีเยอะ

แต่ทั้ง Spotify and Pandora ก็มีข้อจำกัดในยุคนั้นคือ คนฟังต้องอยู่ เมกาาาาาาา ในขณะที่เราอยู่แถวลำลูกกา วิธีแก้คือ ใช้ VPN มาเพื่อสมัครทั่งสองค่ายนี้ไว้ฟังเพลงเลย รวมทั้งยอมสมัคร Spotify premium ในราคาเมกา เพื่อที่จะได้ฟังอย่างไม่ขัดใจ

วันเวลาได้ทำให้ Spotify ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดอย่างแท้จริง ส่วน Pandora นี่ผมนี่ลืมไปเลย UI มันห่วยอ่ะ

ณ เวลานี้ Spotify ผมมี Daily Mix อยู่ 6 แบบ แต่ละแบบ ก็คือ แต่ละดนตรีแนวที่ผมชอบฟัง ไม่ว่าจะเพลงไทยช้า เพลงนอกช้า เพลงนอกแบบเร็ว เพลงบรรเลง เพลงฝรั่งยุคเก่าๆ เพลงแด๊นซ์ในผับ

แต่ปัญหาที่ผมคาๆ ใจมาตลอด หลังจากเป็นสมาชิก Spotify มากว่า ๖ ปี (ฟังมาก่อนเข้าไทยอ่ะนะ) นั่นคือ เมื่อเราฟังเพลงนานๆ ไม่ว่าจะอะไรก็รู้สึก เลี่ยน หรือ บางทีเราไม่ได้อยากฟังเพลง เราอยากฟังอะไรที่ให้ความรู้เราบ้าง เหมือนมีเพื่อนมาเล่านู่นเล่านี่ให้ฟัง เรื่องทั่วๆ ไป เรื่องไอที เรื่องเทคนิคนิดๆ หน่อยๆ ให้ชีวิตมันง่ายขึ้น

ผมรู้สึกอย่างนี้มาสักพัก จนกระทั่งวันนึงก็พบว่า Spotify ก็มี Podcast แล้ว ผมบอกเลยนี่ล่ะใช่เลย (อีกแล้ว) เพราะบางทีเราก็อยากฟังเพลงสลับกับคนพูดเหมือนกัน (อารมณ์ดีเจวิทยุ)

ณ วันนี้ ผมเรียกได้ว่า ฟังมันบ่อยกว่าเพลงซะอีก (ช่วงข้าวใหม่ปลามัน) ^^  ฟังไปฟังมา Podcast ที่ฟังๆ สำหรับผมก็มาถึงที่เรียกได้ว่า ไม่โดนอีก(แล้ว) เพราะโดยมากจะเป็นเรื่อง เศรษฐกิจ การงาน หรือเที่ยวอะไรไร้สาระ เรื่องเศรษฐกิจการงานนี่บอกเลย กูพอแล้ว อยู่ในที่ทำงานนี่ก็ enough พอล่ะ


ประจวบกับ หลังๆ ผมเห็นป๊าม๊าผมนี่แบบติด Youtubaholic 555 คนแก่นั่งดูทั้งวัน ผมว่าบางทีมันก็ไม่ค่อยได้อะไรนะ ผมเลยหาหนังสือธรรมะมาอ่าน ลง Podcast แล้วเล่ากะให้ท่านฟัง (ลูกกตัญญูว่างั้น) ไปๆ มาๆ ทำแล้วสนุกดีนะ ณ เวลานี้ ทำมา EP.24 ล่ะ อิอิ ขายของซะเลย ใครสนใจไปฟังกันครับ อยู่แถบด้านข้างนะครับ

enjoy!


อ้อ เกือบลืม pattern นี้ อย่าลืมกด follow หรือ ติดตาม เพื่อได้รับฟัง episode ใหม่ๆ กันนะครับ (ไม่มีกระดิ่ง 555)



ความคิดเห็น