somtoon@เดนมาร์ก ตอน1
Denmark หรือ Danmark (ตามวิธีการเขียนของคนที่นี่) แต่อ่านว่าเดนมาร์กเหมือนกัน ตอนนี้ผมมาอยู่ได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์บันทึกไว้สักหน่อย เกี่ยวกับสิ่งที่เห็นเพื่อนๆ หรือคน (ไทย) ที่นี่พูดกัน หรือไม่ค่อยเจอที่บ้านเราบ่อยๆ
- ข้าวของที่นี่แพง
อันนี้ฟังจากหลายๆ คนพูดมา ได้ยินบ่อยสุด ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อเราเดินทางไปต่างประเทศนะ เรามักเปรียบกับข้าวของในไทย ไปที่ไหนๆ ก็รู้สึกอย่างนี้ล่ะ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย (เท่าที่ไปมา) จะเจอที่ซื้อแล้วไม่ค่อยรู้สึกว่าแพงก็ตอนไปเนปาลนี่ล่ะ ราคาคล้ายๆ บ้านเรา แต่ไม่ค่อยอยากซื้ออะไรเท่าไหร่
- รถส่วนใหญ่มีที่ลากบริเวณท้ายรถ
ผมสังเกตเห็นท้ายรถโดยมากจะมีคล้ายๆ ที่ลากของ ทราบมาว่า เค้าไว้เวลาย้ายของอะไรก็จะใส่ตู้คอนไปกันเอง จ้างแรงงานที่นี่แพง
- ประเทศสงบ ไว้ใจได้ วันนี้ไปฝากธนาคารมา ไม่ต้องทำอะไรมากเลย เอาเงินใส่ตู้ที่หน้าธนาคารคล้ายๆ ล็อกเกอร์ (ผมไม่กล้าถ่ายรูป) กดรหัส > เอาเงินใส่ตู้ > ใส่ตู้เข้าเหมือนเดิม เป็นอันเสร็จ ฝากเงินเสร็จแล้วพลันนึกถึงบ้านเรา เฮ้อ
- ออกกำลังกายตอนบ่าย 3
ผมมาช่วงเดือนกันยายน ออกไปวิ่งได้ช่วงเวลาบ่าย 3 ถ้าเป็นบ้านเรา เวลานี้คงหมดสิทธิ์ อากาศเย็นสบาย ฝุ่นไม่ค่อยมี เข้าไปวิ่งในป่า (อยู่หลังบ้านผมล่ะ :p ) เป็นป่าเนื้อที่ 800 ไร่ วิ่งวันแรกหลงทาง ดีที่ติดตั้งแอพ Nike+ ติดไปด้วย เลยเปิดดูแผนที่แล้ววิ่งกลับถูก วันที่สองลองวิ่งอีก ไม่หลงล่ะ ชิลมาก อารมณ์เดียวกับ Forest Gump ที่วิ่งในหนัง วิ่งผ่านวิวสวยๆ ผมรู้สึกอย่างนั้น เห็นวิวสวยๆ อากาศดีๆ ข้างซ้ายของป่าเป็นทุ่งข้าวบาร์เล่ย์ ข้างขวาของป่า เป็นทะเล สรุปว่า ฟิน
- การจอดรถ
น้องที่ขับรถไปส่งกังวลมากขณะจอดรถทานอาหารกลางวันกัน กลัวว่าจะเลยเวลา ผมเลยถามว่า ถ้าเลยเวลาโดนเยอะป่าว เห็นน้องบอกว่า 5-600 โครน (เอา *5 เข้าไป) มาสังเกตอีกอย่าง รถที่นี่จะมีอุปกรณ์ติดหน้ารถทุกคน เรียกว่า Parkone สำหรับ เมื่อเราจอดบริเวณที่จอดรถ ตัวนี้จะเป็นตัวบอกคนที่มาตรวจว่าจอดไปกี่นาทีแล้ว โดยตัวเครื่องจะทำสัญญาณกับแท่นที่จอดรถบริเวณนั้น ว่าเริ่มจอดไปกี่นาทีแล้ว ถ้าผิดเวลาก็โดนปรับนั่นล่ะ ผมถามน้องว่า อ้าว แล้วถ้าเราไม่มีเครื่องนี้ล่ะเป็นอะไรรึป่าว เค้าบอกว่า โห อันนี้โดนหนักเลยครับ สรุปว่าต้องมีทุกคน
เท่านี้ก่อนนะครับ
- ข้าวของที่นี่แพง
อันนี้ฟังจากหลายๆ คนพูดมา ได้ยินบ่อยสุด ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อเราเดินทางไปต่างประเทศนะ เรามักเปรียบกับข้าวของในไทย ไปที่ไหนๆ ก็รู้สึกอย่างนี้ล่ะ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย (เท่าที่ไปมา) จะเจอที่ซื้อแล้วไม่ค่อยรู้สึกว่าแพงก็ตอนไปเนปาลนี่ล่ะ ราคาคล้ายๆ บ้านเรา แต่ไม่ค่อยอยากซื้ออะไรเท่าไหร่
- รถส่วนใหญ่มีที่ลากบริเวณท้ายรถ
ผมสังเกตเห็นท้ายรถโดยมากจะมีคล้ายๆ ที่ลากของ ทราบมาว่า เค้าไว้เวลาย้ายของอะไรก็จะใส่ตู้คอนไปกันเอง จ้างแรงงานที่นี่แพง
- ประเทศสงบ ไว้ใจได้ วันนี้ไปฝากธนาคารมา ไม่ต้องทำอะไรมากเลย เอาเงินใส่ตู้ที่หน้าธนาคารคล้ายๆ ล็อกเกอร์ (ผมไม่กล้าถ่ายรูป) กดรหัส > เอาเงินใส่ตู้ > ใส่ตู้เข้าเหมือนเดิม เป็นอันเสร็จ ฝากเงินเสร็จแล้วพลันนึกถึงบ้านเรา เฮ้อ
- ออกกำลังกายตอนบ่าย 3
ผมมาช่วงเดือนกันยายน ออกไปวิ่งได้ช่วงเวลาบ่าย 3 ถ้าเป็นบ้านเรา เวลานี้คงหมดสิทธิ์ อากาศเย็นสบาย ฝุ่นไม่ค่อยมี เข้าไปวิ่งในป่า (อยู่หลังบ้านผมล่ะ :p ) เป็นป่าเนื้อที่ 800 ไร่ วิ่งวันแรกหลงทาง ดีที่ติดตั้งแอพ Nike+ ติดไปด้วย เลยเปิดดูแผนที่แล้ววิ่งกลับถูก วันที่สองลองวิ่งอีก ไม่หลงล่ะ ชิลมาก อารมณ์เดียวกับ Forest Gump ที่วิ่งในหนัง วิ่งผ่านวิวสวยๆ ผมรู้สึกอย่างนั้น เห็นวิวสวยๆ อากาศดีๆ ข้างซ้ายของป่าเป็นทุ่งข้าวบาร์เล่ย์ ข้างขวาของป่า เป็นทะเล สรุปว่า ฟิน
- การจอดรถ
น้องที่ขับรถไปส่งกังวลมากขณะจอดรถทานอาหารกลางวันกัน กลัวว่าจะเลยเวลา ผมเลยถามว่า ถ้าเลยเวลาโดนเยอะป่าว เห็นน้องบอกว่า 5-600 โครน (เอา *5 เข้าไป) มาสังเกตอีกอย่าง รถที่นี่จะมีอุปกรณ์ติดหน้ารถทุกคน เรียกว่า Parkone สำหรับ เมื่อเราจอดบริเวณที่จอดรถ ตัวนี้จะเป็นตัวบอกคนที่มาตรวจว่าจอดไปกี่นาทีแล้ว โดยตัวเครื่องจะทำสัญญาณกับแท่นที่จอดรถบริเวณนั้น ว่าเริ่มจอดไปกี่นาทีแล้ว ถ้าผิดเวลาก็โดนปรับนั่นล่ะ ผมถามน้องว่า อ้าว แล้วถ้าเราไม่มีเครื่องนี้ล่ะเป็นอะไรรึป่าว เค้าบอกว่า โห อันนี้โดนหนักเลยครับ สรุปว่าต้องมีทุกคน
เท่านี้ก่อนนะครับ
ความคิดเห็น